การสอบสวนอุบัติเหตุ
วัตถุประสงค์
- เพื่อศึกษาและค้นหาสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุ และสภาพการณ์ที่เป็นอันตรายต่าง ๆ
- เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุ โดยอาศัย การแก้ไข และปรับปรุงที่ถูกต้อง
- เพื่อพิจารณาค้น หาความจริง ที่เป็นมูลเหตุที่ทำให้คนงาน ทำงานในลักษณะของการกระทำที่ไม่ปลอดภัยหรือไม่ถูก ต้อง ตามข้อบังคับ อันจะ ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ
- เพื่อให้ทราบถึงผลของการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ ตลอดทั้งความเสียหายต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูล เป็นการกระตุ้น ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มความสน ใจในการป้องกัน
- เพื่อประโยชน์ในการเก็บรวบรวมทางสถิติและการวิเคราะห์อุบัติเหตุ
ผู้รับผิดชอบในการสอบสวนอุบัติเหตุ
- ผู้ควบคุมงาน รับผิดชอบในการควบคุมดูแลการทำงานของคนงาน ให้ถูกวิธี มีความปลอดภัย เป็นไปตามกฎข้อบัง คับ ของโรงงาน เหมาะสม ในการสืบสวนอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ
- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุ และเสริมสร้างความปลอดภัยในการทำงานโดยตรง ต้อง มีความรู้และประสบการณ์ ในด้านนี้ จึงจะทำงาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักสำคัญในการสอบสวน
- ผู้สอบสวน ต้องมีความคิดอ่านและสามัญสำนึกที่ชัดแจ้งเป็นรูปธรรม
- ผู้สอบสวน ต้องมีความรู้กับขบวนการผลิตคุ้นเคยกับเครื่องจักร คนงาน ตลอดจนสภาพแวดล้อม ต่างๆ ของแผนก ที่เกิดอุบัติเหตุ
- ผู้สอบสวน ไม่ควรเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ของหัวหน้างาน หรือผู้ควบคุมงานในแผนกที่เกิดอุบัติเหตุ
- การสอบสวนต้องทำทันทีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือโดยเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง สิ่งต่าง ๆ ที่อาจก่อ อุบัติเหตุ ต้องสอบสวนอย่างละเอียด ควรกระทำเป็นกลุ่ม หรือ คณะทำงาน เพื่อให้ได้สาเหตุที่แท้จริง การสอบ สวน จะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อมีการทำรายงาน และเสนอแนวทางแก้ไข
ผลที่ได้จากการสอบสวน
- เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
- ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์นั้น
- ใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการแก้ไขป้องกันอุบัติเหตุในครั้งนี้
- มีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง
- จะดำเนินการตามที่เสนอแนะได้เร็วเพียงใด
การบันทึกและรายงานอุบัติเหตุวัตถุประสงค์
- เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติในการเกิดอุบัติเหตุ การจ่ายเงินทดแทน การวิเคราะห์และสอบสวนอุบัติเหตุ
- เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการป้องกันอุบัติเหตุ
หลักการบันทึกและสอบสวน
- ต้องบันทึกและรายงานการเกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง
- รายงานต้องประกอบด้วยหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เหตุการณ์ การสอบสวนสาเหตุ ข้อเสนอแนะในการแก้ไข และการสั่งการของฝ่ายบริหาร
- รายงานจะต้องมีลักษณะง่ายต่อการรวบรวมหรือแยกประเภทตามลักษณะสาเหตุหรือการบาดเจ็บหรือเพื่อ ประโยชน์ ใน ทางสถิติ และทางอื่น ๆต่อไป
รายงานอุบัติเหตุ แบ่งได้เป็น 4 ประเภท
- รายงานการปฐมพยาบาล เกี่ยวกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากห้องพยาบาลของโรงงาน หรือ จากสถาน พยาบาล ภายนอก
- รายงานอุบัติเหตุของหัวหน้างาน หรือ ผู้ควบคุมงาน ซึ่งทำทุกครั้งหลังการเกิดอุบัติเหตุ
- รายงานอุบัติเหตุประจำเดือน ในลักษณะของ
- รายงานสรุปเป็นผลวิเคราะห์รวมตามแบบฟอร์ม หรือเป็นผังแสดง
- รายงานของแต่ละแผนก หรือของคณะกรรมการความปลอดภัย
- รายงานแสดงรายละเอียดที่จำเป็นจ่อการคำนวนหาความถี่ของการเกิดอุบัติเหตุ และ อัตราความรุนแรง ของ อุบัติเหตุ
- รายงานสรุปประจำปี
- เพื่อแสดงแนวโน้มของอุบัติเหตุ และการดำเนินการด้านความปลอดภัยระหว่างปี
- เพื่อการเปรียบเทียบ กับสถิติอุบัติเหตุในปีที่ผ่าน ๆ มา และการคาดการสำหรับอนาคต
ลักษณะและรายละเอียดในรายงาน ต้องมีรายละเอียดครบถ้วนดังนี้
- รายละเอียดของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เช่นชื่อ อายุ เพศ แผนกที่สังกัด สถานที่ของแผนก ลักษณะงานที่ทำ ประสบการณ์ หรืออายุงานในแผนก
- รายละเอียดเกี่ยวกับการประสบอันตราย
- ชนิดของวัตถุ หรือสารที่ทำให้เกิดอันตราย ต้องระบุชื่อของสิ่งนั้นเลย
- รายละเอียดเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แบ่งแยกเป็นคำถามย่อยลำดับเหตุการณ์ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ
- งานที่ทำขณะเกิดอุบัติเหตุ ควรกำหนดลักษณะการกระทำที่ เฉพาะลงไป ในขณะเกิดอุบัติเหตุ ตลอดจนระบุถึง วัสดุ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่กำลังใช้อยู่
- เกิดอะไรขึ้น ต้องอธิบายให้ได้ว่า อันตรายเกิดขึ้นได้อย่างไร
- ข้อเสนอแนะและความเห็นของผู้สอบสวนเพื่อแสดงให้เห็นข้อผิดพลาดในการทำงาน
การบันทึก และ สอบสวนอุบัติเหตุต้องครอบคลุมรายละเอียดดังนี้
Who : ผู้ได้รับบาดเจ็บ
When : เวลาที่เกิดอุบัติเหตุ
Where : สถานที่ หรือบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุ
What : บรรยายรายละเอียดของเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
How : คนงานได้รับบาดเจ็บอย่างไร
Why : ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น