วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กฎกระทรวง (ต่อภาค3)

                กฎกระทรวงต่อจ้า  แอดมินแอคทีฟฝุดๆ  ตอนนี้ว่างเลยอยากลงให้ก่อน สู้ๆๆๆๆๆ  (ก่อนจะต้องทำงานและทำการบ้านค่ะ   มาดูกันต่อเล้ยยยยยยยยย


                                 หมวด  ๔
           อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล


ข้อ  ๑๓  อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลต้องมีมาตรฐาน  ดังต่อไปนี้
          (๑)  ชุดแต่งกาย  รองเท้า  และถุงมือ  สําหรับป้องกันความร้อน ต้องทําด้วยวัสดุที่มีน้ําหนักเบา
สามารถกันความร้อนจากแหล่งกําเนิดความร้อนเพื่อมิให้อุณหภูมิในร่างกายเกิน  ๓๘  องศาเซลเซียส
          (๒) หมวกนิรภัย(Safety Hat)  ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หมวกนิรภัย
ที่มีอุปกรณ์ส่องแสงสว่างจะต้องมีอุปกรณ์ที่ทําให้มีแสงสว่างส่องไปข้างหน้าที่มีความเข้มในระยะสามเมตรไม่น้อยกว่ายี่สิบลักซ์ติดอยูที่หมวกด้วย
          (๓)  แว่นตาลดแสง(Safety Glasses)  ต้องทําด้วยวัสดุซึ่งสามารถลดความจ้าของแสงลงให้อยู่
ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา  กรอบแว่นตาต้องมีน้ําหนักเบาและมีกระบังแสงซึ่งมีลักษณะอ่อน
          (๔) กระบังหน้าลดแสง(Face Shield)   ต้องทําด้วยวัสดุสีที่สามารถลดความจ้าของแสงลงให้อยู่ในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา  กรอบกระบังหน้าต้องมีน้ําหนักเบาและไม่ติดไฟง่าย
          (๕)  ปลั๊กลดเสียง(Ear Plugs) ต้องทําด้วยพลาสติก  ยาง หรือวัสดุอื่นที่อ่อนนุ่มและไม่ระคายเคือง
ใช้ใส่ช่องหูทั้งสองข้าง  และสามารถลดเสียงได้ไม่น้อยกว่าสิบห้าเดซิเบลเอ
          (๖)  ครอบหูลดเสียง(Ear Muffs)  ต้องทําด้วยพลาสติก  ยาง  หรือวัสดุอื่นที่อ่อนนุ่มและไม่ระคายเคือง  ใช้ครอบหูทั้งสองข้าง  และสามารถลดระดับเสียงลงได้ไม่น้อยกว่ายี่สิบห้าเดซิเบลเอ
ข้อ  ๑๔  นายจ้างต้องจัดให้มีการบริหารจัดการเกี่ยวกับวิธีการเลือกและการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล  โดยต้องจัดให้ลูกจ้างได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการใช้และการบํารุงรักษาอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล  รวมทั้งระเบียบในการใช้ต้องจัดทําขึ้นอย่างมีระบบและสามารถ  ให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้ตลอดเวลาทําการ



                                   หมวด  ๕
         การตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทํางาน



ข้อ  ๑๕  นายจ้างต้องจัดให้มีการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทํางานเกี่ยวกับระดับความร้อน  แสงสว่าง  หรือเสียงภายในสถานประกอบกิจการหลักเกณฑ์และวิธีดําเนินการตามวรรคหนึ่ง  ระยะเวลา และประเภทกิจการที่ต้องดําเนินการให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ  ๑๖  นายจ้างต้องจัดทํารายงานการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทํางานตามข้อ  ๑๕
โดยให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทํางานระดับวิชาชีพหรือให้ผู้สําเร็จการศึกษาไม่ต่ํากว่าปริญญาตรี
สาขาอาชีวอนามัยหรือเทียบเท่าตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นผู้รับรองรายงาน  และให้นายจ้างเก็บรายงานดังกล่าวไว้  ณ สถานประกอบกิจการเพื่อให้พนักงานตรวจแรงงานตรวจสอบได้ตลอดเวลาทําการ
พร้อมทั้งส่งรายงานคู่ฉบับต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ทําการ
ตรวจวัด
ข้อ  ๑๗  ผู้ใดประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองรายงานการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทํางาน  ให้ยื่นคําขอพร้อมแนบสําเนาเอกสารหลักฐานต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายการยื่นคําขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองรายงานตามวรรคหนึ่ง  ในเขตกรุงเทพมหานคร  ให้ยื่น  ณ  กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน  กระทรวงแรงงาน  หรือสถานที่อื่นที่อธิบดีประกาศกําหนดสําหรับจังหวัดอื่นให้ยื่น  ณ  สํานักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด   คําขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองรายงานตามวรรคหนึ่ง  ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ  ๑๘  เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับคําขอที่ได้ยื่นตามข้อ ๑๗ แล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้อง
และเสนอต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองรายงานการตรวจวัดและ
วิเคราะห์สภาวะการทํางานในกรณีที่ผู้ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองรายงานตามข้อ  ๑๖  แล้ว  กระทําการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอํานาจเพิกถอนบุคคลนั้นออกจากทะเบียน
ขอ  ๑๙  การยื่นคําขอขึ้นทะเบียนตามข้อ  ๑๗  ให้กําหนดอัตราคาธรรมเนียม  ดังนี้



(๑)  ค่าคําขอ                                                  ฉบับละ  ๒๐  บาท
(๒)  ค่าขึ้นทะเบียน                                         ปีละ  ๓,๐๐๐  บาท
(๓)  ค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียน             ฉบับละ  ๑๐  บาท





ที่มา.......กฎกระทรวง(ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฯ)

















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น