กฎกระทรวงว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน มาแล้วจ้ามาแล้ว มาต่อกันเลย กับหมวดที่ 2 หมวดที่ 3 ค่ะ
หมวด ๒
แสงสว่าง
ข้อ ๕ นายจ้างต้องจัดให้สถานประกอบกิจการมีความเข้มของแสงสว่าง ดังต่อไปนี้
(๑) ไม่ต่ํากว่ามาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๑ ท้ายกฎกระทรวงนี้ สําหรับบริเวณพื้นที่ทั่วไป
ภายในสถานประกอบกิจการ เช่น ทางเดิน ห้องน้ํา ห้องพัก
(๒) ไม่ต่ํากว่ามาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๒ ท้ายกฎกระทรวงนี้ สําหรับบริเวณพื้นที่ใช้ประโยชน์ในกระบวนการผลิตที่ลูกจ้างทํางาน
(๓) ไม่ต่ํากว่ามาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๓ ท้ายกฎกระทรวงนี้ สําหรับบริเวณที่ลูกจ้างต้องทํางานโดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู่กับที่ในการทํางาน
(๔) ไม่ต่ํากว่ามาตรฐานเทียบเคียงที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๔ ท้ายกฎกระทรวงนี้สําหรับบริเวณที่ลูกจ้างต้องทํางานโดยใช้สายตามองเฉพาะจุดหรือต้องใช้สายตาอยู้กับที่ในการทํางาน ในกรณี
ที่ความเข้มของแสงสว่าง ณ ที่ที่ให้ลูกจ้างทํางานมิได้กําหนดมาตรฐานไว้ในตารางที่ ๓
(๕) ไม่ต่ํากว่ามาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๕ ท้ายกฎกระทรวงนี้ สําหรับบริเวณรอบ ๆสถานที่ลูกจ้างต้องทํางานโดยใช้สายตามองเฉพาะจุด
ข้อ ๖ นายจ้างต้องใช้หรือจัดให้มีฉาก แผ่นฟิล์มกรองแสง หรือมาตรการอื่นที่เหมาะสมและเพียงพอ เพื่อป้องกันมิให้แสงตรงหรือแสงสะท้อนจากแหล่งกําเนิดแสงหรือดวงอาทิตย์ที่มีแสงจ้าส่องเข้านัยน์ตาลูกจ้างโดยตรงในขณะทํางาน ในกรณีที่ไม่อาจป้องกันได้ต้องจัดให้ลูกจ้างสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ ตลอดเวลาที่ทํางาน
ข้อ ๗ ในกรณีที่ลูกจ้างต้องทํางานในสถานที่มืด ทึบ คับแคบ เช่น ในถ้ํา อุโมงค์หรือในที่ที่มีลักษณะ เช่น ว่านั้น นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างสวมหมวกนิรภัยที่มีอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง หรือมีอุปกรณ์ส่องแสงสว่างอื่นที่เหมาะแก่สภาพและลักษณะของงานตามมาตรฐานที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ตลอดเวลาที่ทํางาน
หมวด ๓
เสียง
ข้อ ๘ นายจ้างต้องควบคุมระดับเสียงที่ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดเวลาการทํางานในแต่ละวัน(Time Weighted Average-TWA) มิให้เกินมาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๖ ท้ายกฎกระทรวงนี้หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจวัดระดับเสียง และการคํานวณการได้รับเสียง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ ๙ ในบริเวณสถานประกอบกิจการที่มีระดับเสียงกระทบหรือเสียงกระแทก(Impact or Impulse Noise) เกินหนึ่งร้อยสี่สิบเดซิเบลเอ หรือมีปริมาณเสียงสะสมของเสียงกระทบหรือเสียงกระแทก
เกินมาตรฐานที่กําหนดไว้ในตารางที่ ๖ ท้ายกฎกระทรวงนี้ นายจ้างต้องให้ลูกจ้างหยุดทํางานจนกว่าจะได้ปรับปรุงหรือแก้ไขระดับเสียง
หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจวัดระดับเสียงกระทบหรือเสียงกระแทก ให็เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกําหนด
ข้อ ๑๐ ภายในสถานประกอบกิจการที่สภาวะการทํางานมีระดับเสียงที่ลูกจ้างได้รับเกินมาตรฐานที่กําหนดใน ข้อ ๘ หรือ ข้อ ๙ ให้นายจ้างดําเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขสิ่งที่เป็นต้นกําเนิดของเสียงหรือทางผ่านของเสียงหรือการบริหารจัดการเพื่อให้มีระดับเสียงที่ลูกจ้างได้รับอยู่ไม่เกินมาตรฐานที่กําหนดในกรณียังดําเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขตามวรรคหนึ่งไม่ได้ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างสวมใส่
อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลตามที่กําหนดไว้ในหมวด ๔ ตลอดเวลาที่ทํางาน เพื่อลดเสียงให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินมาตรฐานที่กําหนดไว้ใน ข้อ ๘ หรือ ข้อ ๙
ข้อ ๑๑ ในบริเวณที่มีระดับเสียงเกินมาตรฐานที่กําหนดใน ข้อ ๘ หรือ ข้อ ๙ นายจ้างต้องจัดให้มีเครื่องหมายเตือนให้ใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลติดไว้ให้ลูกจ้างเห็นได้โดยชัดเจน
ข้อ ๑๒ ในกรณีที่สภาวะการทํางาน ในสถานประกอบกิจการมีระดับเสียง ที่ลูกจ้างได้รับเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทํางาน แปดชั่วโมงตั้งแต่แปดสิบห้าเดซิเบลเอขึ้นไป ให้นายจ้างจัดทําโครงการ
อนุรักษ์การได้ยินในสถานประกอบกิจการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีประกาศกําหนด
ที่มา......กฎกระทรวง(ออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานฯ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น